97
“สภากาชาดไทย"เปิด"ศูนย์สุขภาพชุมชนแทนเจอรีน" คัดกรอง-รักษาโรคติดต่อคนข้ามเพศ แก้ปัญหาหลังแปลงเพศ พร้อมบริการฉีดโบท็อกซ์ ตัดวงจร"หมอกระเป๋า"ใช้เข็มซ้ำทำสาวประเภทสองติดเชื้อ"เอชไอวี"
โดยเมื่อวันที่ 23 ส.ค. ที่โรงแรมคอร์ทยาร์ด แมริออท กรุงเทพฯ ในงานประชุมเสวนาระหว่างผู้ให้บริการทางด้านสุขภาพแก่คนข้ามเพศกับผู้นำชุมชนคนข้ามเพศ พญ.นิตยา ภานุภาค พึ่งพาพงศ์ หัวหน้ากลุ่มงานป้องกัน ศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทย กล่าวว่า ปัจจุบันพบว่าคนข้ามเพศยังมีปัญหาเรื่องโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์จำนวนมาก เช่น เอชไอวี เอชพีวี หนองในแท้ หนองในเทียม ซิฟิลิส หูด เป็นต้น แต่ยังไม่มีสถานพยาบาลใดที่ให้บริการและดูแลแบบระยะยาวแก่คนกลุ่มนี้ รวมถึงยังพบการฉีดฮอร์โมนเพศถึงร้อยละ 90 ซึ่งเสี่ยงในการได้รับฮอร์โมนเกิน บางคนใช้เข็มร่วมกัน ทำให้ติดเชื้อโรคติดต่อผ่านทางเข็มฉีดยา
สภากาชาดไทยจึงได้เปิดศูนย์สุขภาพชุมชนแทนเจอรีนขึ้น เมื่อเดือน พ.ย.2558 เพื่อให้บริการแก่กลุ่มคนข้ามเพศโดยเฉพาะแบบวันสต็อปเซอร์วิส ในอัตราค่าบริการที่คนทั่วไปเข้าถึงได้ โดยให้บริการตั้งแต่การตรวจคัดกรอง รักษา และป้องกันโรคในระยะยาวแบบครบวงจร เช่น การวัดระดับฮอร์โมน การฉีดฮอร์โมน การตรวจค่าการทำงานของตับ ไต บริการตรวจโรคจากการมีเพศสัมพันธ์ การตรวจคัดกรองระยะก่อนมะเร็งที่เกี่ยวข้องกับการมีเพศสัมพันธ์ อาทิ ทวารหนัก ช่องคลอด และช่องคลอดใหม่ในกลุ่มชายแปลงเพศเป็นหญิง รวมถึงโรคที่จะเกิดขึ้นหลังจากการแปลงเพศ ทั้งนี้ ตั้งแต่เปิดศูนย์ฯ มาประมาณ 8 เดือน มีผู้เข้ารับบริการแล้วกว่า 400 คน และจากนี้จะมีการอบรมเรื่องการให้บริการอย่างเป็นมิตร ป้องกันการละเมิดผู้ป่วยด้วยทั้งที่ไม่ได้ตั้งใจ
พญ.นิตยา กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ เนื่องจากปัจจุบันพบว่าสาวประเภทสองมีการติดเชื้อเอชไอวีจากการเสริมความงามจากหมอเถื่อน หมอกระเป๋า ซึ่งจะมีการใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน ดังนั้น ที่ศูนย์สุขภาพฯ มีการให้บริการเสริมความงามในการฉีดโบท็อกซ์ด้วย ถือเป็นการให้บริการเพื่อป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีจากการใช้เข็มฉีดยาอีกช่องทางหนึ่ง และในอนาคตอาจขยายบริการฉีดฟิลเลอร์ด้วย แต่ที่จะขยายอย่างจริงจังคือการให้มีจิตแพทย์มาดูแลปรับสภาพจิตใจ เพราะกลุ่มเพศทางเลือกมักมีปัญหาซึมเศร้า เครียด และใช้สารเสพติด แต่คนไม่ค่อยนึกถึง
เอกสารที่แนบ
